BokBok

Shop

Heat Stroke 

ภัยร้ายต่อสัตว์เลี้ยงที่มาพร้อมกับอากาศร้อน

      พวกเราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าสภาพอากาศที่ร้อนนั้นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ยังไงบ้าง แต่รู้มั้ยว่าสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรักของพวกเราอย่างน้องหมา น้องแมวแล้ว จริงๆ ก็ส่งผลอันตรายไม่แพ้กันเลยทีเดียว สำหรับอาการฮีทสโตรก หรือโรคลมแดดนั่นเอง ฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแทบจะทุกชนิด ฮีทสโตรกสามารถเกิดขึ้นได้เวลาที่สภาพอากาศมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นมากกว่าระดับปกติโดยทั่วไปอุณหภูมิของน้องหมา น้องแมว จะอยู่ที่ประมาณ 39 องศาเซลเซียส แต่ถ้าอยู่ในสถานที่ที่ปิดอากาศไม่สามารถถ่ายเทสะดวกและมีอุณหภูมิสูงกว่า 41 องศาเซลเซียส จะทำให้สัตว์เลี้ยงเรามีโอกาสเป็นฮีทสโตรกได้สูงมาก และการที่อุณหภูมิในร่างกายสูงเกินไป อาจส่งผลถึงอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว และถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นภาวะฮีทสโตรกเป็นเรื่องที่ควรระวังเป็นพิเศษทุกครั้งที่เราพาน้องหมา น้องแมว ออกไปเที่ยวหรือฝากไว้ในต่างสถานที่

ภาวะฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยง เกิดจากการที่อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียสอย่างรวดเร็ว และระบายความร้อนออกสู่ภายนอกไม่ทัน อาการที่เกิดขึ้นตามมาจะมีดังนี้ 

  • อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นผิดปกติ (อุณหภูมิปกติของร่างกายน้องหมา น้องแมวควรจะอยู่ที่ประมาณ 38 -39 องศาเซลเซียส)
  • มีอาการอาเจียน ถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นเลือด
  • มีเหงือกเป็นสีแดงเข้ม อาจมีน้ำลายไหลเยอะ และหายใจถี่ปนหอบ
  • หัวใจมีการเต้นเร็ว เหงื่ออกบริเวณอุ้งเท้า
  • ช็อก เป็นลมหมดสติ
  • บางกรณีอาจจะมีอาการมึนงง ดุร้าย หรือกระวนกระวาย กระสับกระส่ายไปมา

หากสังเกตสัตว์เลี้ยงของเราแล้วมีอาการเหล่านี้แสดงว่าสัตว์เลี้ยงของเราเริ่มมีภาวะฮีทสโตรกแล้ว ทั้งนี้ความรุนแรงของภาวะฮีทสโตรกจะขึ้นอยู่กับขนาด สายพันธุ์ และอายุของสัตว์เลี้ยงด้วย แต่ทางที่ดีเมื่อมีอาการ ควรรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำส่งสัตวแพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ หรือคลินิกรักษาสัตว์ใกล้บ้านทันที *อีกหนึ่งวิธีในการตรวจสอบเบื้องต้นว่าน้องๆ มีภาวะฮีทสโตรกหรือไม่ โดยใช้หลังมือแตะบริเวณขาหนีบเพื่อดูว่าร้อนผิดปกติมั้ย ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะฮีทสโตรกได้ส่วนมากจะเกิดจาก

  • อยู่ในที่ร้อนๆ  อากาศไม่ถ่ายเท หรืออยู่ในตำแหน่งที่มีอุณหภูมิสูงในตอนกลางวัน เช่น โรงรถ หรือสวนสนามกลางแจ้ง
  • ทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถกลางแดดจัดๆ
  • สัตว์เลี้ยงมีร่างกายที่อ่อนแอ มีอายุมาก อ้วน พันธุ์ขนยาว พันธุ์ที่มีใบหน้าสั้น หรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ จะเสี่ยงภาวะฮีทสโตรกได้ง่ายกว่า เมื่อเรารู้อาการและรู้สาเหตุของการเกิดภาวะฮีทสโตรกแล้ว สิ่งทำควรทำคือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งไปให้ถึงมือหมอ
  • ย้ายออกจากสภาพแวดล้อมที่มีอากาศร้อน นำไปหลบบริเวณที่มีร่มเงา หรือห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ
  • ถอดเสื้อ ปลดสายรัดอก หรือสายรัดคอ ออกจากตัวสัตว์เลี้ยง
  • ค่อยๆ ปรับอุณหภูมิร่างกายของสัตว์เลี้ยง เช่น เช็ดตัว หรือเอาน้ำค่อยๆ ลูบเพื่อระบายความร้อน หรือนำน้ำเย็นใส่ขวดมาประคบที่บริเวณ ขาหนีบ ใต้รักแร้ และหัว
  • ไม่ควรลดอุณหภูมิร่างกายสัตว์เลี้ยงเร็วเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
  • เมื่อสัตว์เลี้ยงมีอาการดีขึ้น ให้ทานน้ำเย็น เพื่อให้น้องๆ ได้ปรับอุณหภูมิร่างกายเรื่อยๆ จนคงที่ แต่ไม่ควรให้ทานน้ำเย็นจัด
  • รีบพาไปให้สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาหากมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เกิดจากภาวะฮีทสโตรก วิธีการไม่ให้น้องหมา น้องแมว ลูกๆ ของเราไม่เกิดภาวะฮีทสโตรก ควรระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในสถานที่ร้อนๆ ควรให้อยู่ในที่ๆ อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่โดนแดดส่อง มีลมพัดผ่าน และมีน้ำดื่มสะอาดให้กินได้ตลอดเวลา วันไหนที่เราออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก หรือวิ่งเล่นกลางแดดมา ก็อย่าลืมพกและหยิบ BokBok “ทิชชู่เปียกสีเขียว” ไอเทมที่เจ้าของน้องหมาน้องแมวต้องมี เช็ดแล้วเย็น หมดกังวลฮีทสโตรกแน่นอน